เมนู

พุทธัสส อาจริยานาจริยปัญหา ที่ 9


ราชา

สมเด็จขัตติยนรินทร์มิลินท์เลิศกษัตริย์ มีพระบรมราชโองการตรัสถามอรรถ-
ปัญหาอันอื่นสืบไปว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า ผู้ประกอบด้วยปัญญา
ปรีชา ภาสิตํ เจตํ ภควตา พระพุทธฎีกานี้ สมเด็จพระมิ่งโมลีโลกนาถมีพระพุทธฎีกา
ตรัสประภาษไว้ว่า ภิกฺขเว ดูรานะภิกษุทั้งหลาย ตถาคตนี้ไม่มีใครที่จะเป็นครูบาอาจารย์ สทิโส
เม น วิชฺชติ
หาผู้ใดที่จะรู้ปูนปานเปรียบไม่ได้ในมนุษยโลก เป็นเอกเป็นโสด ปุน จ มาอีก
เล่าตรัสโปรดว่า ภิกฺขเว ดูรานะภิกษุทั้งหลาย อาฬาโร กาลาโม อาฬารดาบส กาลามาโคตร
เป็นอาจารย์พระตถาคต ตั้งไว้ซึ่งพระตถาคตว่าดีเสมอตน แล้วกลับบูชาตถาคตโดยโอฬารบูชา
นี่แหละสัททะว่า พระองค์ไม่มีครูบาจารย์ หาผู้ใดจะปูนปานมิได้มั่นคงกระนั้น ก็พระพุทธ-
ฎีกาที่ตรัสว่าพระองค์เป็นศิษย์ของอาฬารดาบส กาลามโคตร คำนี้ก็ผิด แม้จะเชื่อว่าพระองค์
เป็นศิษย์อาฬารดาบส กาลามโคตรนั้น พระพุทธฎีกาที่ตรัสว่าพระองค์หาครูบาจารย์ไม่ได้
ก็ผิด อยํ ปญฺโห อันว่าปริศนานี้ อุภโต โกฏิโก เป็นอุภโตโกฏิ นิมนต์วิสัชนาในกาลบัดนี้
พระนาคเสนมีเถรวาจาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพระราชสมภาร สมเด็จ
พระบรมโลกนาถศาสดาจารย์มีพระพุทธฎีกาโปรดประทานไว้ว่า ภิกฺขเว ดูรานะภิกษุทั้งหลาย
ผู้ใดใครผู้หนึ่งจะได้เป็นครูบาจารย์หามิได้ ตถาคตนี้จะมีผู้ใดเสมอมิได้มี อปฺปฏิปุคฺคโล
หาผู้ใดจะเปรียบมิได้ ครั้นมาใหม่ตรัสว่าอาฬารดาบส กาลามโคตรเป็นอาจารย์นั้น และคำนี้
พระองค์ตรัสหมายความที่อาฬารดาบส กาลามโคตรนั้น เป็นอาจารย์ของพระองค์แต่ก่อนยัง
ไม่ได้ตรัสแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่ มหาราช ขอถวายพระพรบพิตร
พระราชสมภาร อาจารย์ขอสมเด็จพระบรมโลกนาถเมื่อยังไม่ได้ตรัส ยังเป็นโพธิสัตว์นั้นมี 5
พระองค์เสด็จไปอาศัยอยู่ที่อาจารย์นั้น กตเม ปญฺจ อาจารย์มี 5 นั้น คือใครเล่า ได้แก่
พราหมณ์เฒ่า 8 คน มาถวายสวัสดีมงคลกระทำพิธีให้รักษาพระองค์เมื่อวันประสูตินั้น
เรียกว่าอาจารย์เป็นประถม ปุน จ ปรํ ยังอีกเมื่อพระโพธิสัตว์ค่อยจำเริญพระชันษา สมควรที่
ว่าจะเรียนศิลปศาสตร สมเด็จพระเจ้าสิริสุทโธทนมหาราชทรงมอบให้พราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อสรรพ-
นิมิตร อันรู้เวทมนต์และมงคลโกฏฐาสะ อาจรู้คัมภีร์พยากรณ์มีชาติอันประเสริฐ แล้วเอา
พระเต้าทองมาหลั่งหล่อน้ำลงเหนือมือแห่งพราหมณ์นั้นแล้ว ประทานโพธิสัตว์ให้พราหมณ์นั้น
ฝึกสอน นี่แหละจัดเป็นอาจารย์คำรบสอง ปุน จ ปรํ อีกอาจารย์หนึ่งนั้น ขอถวายพระพร ได้
แก่เทพเจ้าอันแปลงเพศมาเป็นคนแก่คนเจ็บคนตาย เทวทูตทั้ง 3 และเพศบรรพชิตเป็นที่ 4
ให้พระโพธิสัตว์มีพระทัยสลด แล้วเสด็จสู่มหาภิเนษกรมณ์นั้น จัดเป็นอาจารย์คำรบสาม ปุน จ
ปรํ มหาราช
ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมการ อีกประการหนึ่ง เมื่อพระองค์ไปถึง

สำนักอาฬารดาบส กาลามโคตร และขอเรียนทางปฏิบัตินั้น จัดเป็นอาจารย์คำรบสี่ ปุน จ ปรํ
อีกอาจารย์หนึ่ง คืออุทกดาบส รามบุตร ซึ่งพระโพธิสัตว์เข้าไปถามถึงวัตรปฏิบัตินั้น จัดเป็น
อาจารย์คำรบห้า มหาราช ขอถวายพระพร อาจารย์ทั้ง 5 นี้เป็นอาจารย์สมเด็จพระมหา
กรุณาเจ้า บอกโลกียธรรมให้แต่ยังไม่ได้ตรัส จัดเป็นอาจารย์บอกโลกียธรรมต่างหาก จะได้เป็น
อาจารย์สมเด็จพระพุทธองค์ผู้ทรงสวัสดิภาคเมื่อได้ตรัสนี้หามิได้ ประการหนึ่ง จะได้เป็น
อาจารย์สอนฝ่ายโลกุตรธรรมนี้แก่สมเด็จพระชินสีห์หามิได้ เหตุฉะนี้ สมเด็จพระบรมไตรโลก-
นาถจึงมีพระพุทธฎีกาประภาษว่า ตถาคตจะมีครูบาอาจารย์สั่งสอนหามิได้ บุคคลผู้ใดจะ
เปรียบเสมอสมานปูนปานกับพระองค์เจ้าหามิได้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชานรากร ทรงพระสวนาการฟังก็สโมสรโสมนัส มีพระราช-
โองการตรัสว่า สาธุ ข้าแต่พระนาคเสน ผู้ประกอบด้วยญาณอันปรีชา สมฺปฏิจฺฉามิ โยมจะ
รับไว้เป็นข้อวัตรปฏิบัติสืบไป แก่กุลบุตรอันจะเกิดมาเมื่อภายหลัง ในกาลบัดนี้
พุทธัสส อาจริยานาจริยปัญหา คำรบ 9 จบเพียงนี้

อัคคาอัคคสมณปัญหา ที่ 10


ภนฺเต นาคเสน ภาสิตํ เจตํ ภควตา อาสวานํ ขยาย สมโณ โหตีติ
ราชา

สมเด็จบรมกษัตริย์ขัตตินรินทร์มิลินท์ภูมินทราธิบดี มีสุนทรพจนารถพระ
ราชโองการตรัสถามอรรถปัญหาบทอื่นว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า
ประกอบด้วยญาณปรีชา ภาสิตํ เจตํ ภควตา พระพุทธฎีกานี้สมเด็จพระองค์ผู้ทรงบุญราศี
สวัสดิภาคหากตรัสโปรดไว้ว่า พระอริยบุคคลที่เป็นอาสวักขัยนั้นแหละเป็นสมณะ ปุน จ ปรํ
ครั้นมาใหม่เล่า สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้า มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายเรียก
นรชาติฝูงคนอันเป็นสมังคี มีความพร้อมเพรียงด้วยธรรม 4 ประการว่าเป็นสมณะ และ
คุณธรรม 4 ประการนี้ คือ ขนฺตี ความอดทนประการ 1 อปฺปาหารตา บริโภคอาหาร
แต่น้อยประการ1 รติวิปฺปหานํ คือประหารเสียซึ่งกำหนัดประการ 1 อกิญฺจนํ หา
กังวลมิได้ประการ 1 สิริเป็นคุณธรรม 4 และธรรมทั้ง 4 นี้ มีอยู่ในสันดานบุคคลเป็น
ปุถุชนประกอบด้วยกิเลส นี่แหละคำพระองค์ตรัสไว้ว่า บุคคลที่เป็นอาสวักขันแล้วเรียกว่า
เป็นสมณะมั่นคงแล้ว คำที่ว่าสมเด็จพระพุทธองค์ว่า นรชาติชนพร้อมด้วยธรรมทั้ง 4